ผักที่เป็นหัวที่เปรียบเสมือนรากที่จัดประเภทตามชนิดของพืช เรากินรากเหล่านี้เนื่องจากพืชเหล่านี้จัดเก็บสารอาหารในรากผัก ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
รากผักมีคุณค่าทางโภชนาการ
รากผักมีคุณค่าทางโภชนาการ
เราบริโภคผักหลายชนิดที่เป็นราก คุณค่าทางโภชนาการของผักแต่ละชนิดจะแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ของการบริโภคของผักแต่ละชนิดล้วนให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ขมิ้น : ขมิ้นส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องเทศ โดยเฉพาะขมิ้นผง และการดองขมิ้นสดยังใช้ในการทำอาหารของคนเอเชีย ขมิ้นมีประโยชน์สมุนไพรหลายอย่าง อุดมไปด้วย curcumin ซึ่งสามารถรักษาอาการการอักเสบ,ต้านเชื้อแบคทีเรีย ขมิ้นมีคุณสมบัติแก้ปวดใช้เป็นยาแผนโบราณเพื่อรักษาอาการท้องอืด ๆ เช่น, ดีซ่าน,ปัญหาเกี่ยวกับระดู,เจ็บคอ,โรคไขข้อ,โรคลำไส้อักเสบ,ปัสสาวะเลือด,เลือด, แผล,ปวดฟัน ฯลฯ และเป็นที่เชื่อกันว่าขมิ้นช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
หัวหอม : หัวหอมมีน้ำ 80% หัวหอมมีวิตามิน,คาร์โบไฮเดรต,ไขมัน เกลือแร่หลายชนิดและโปรตีน ช่วยลดอาการของโรคเบาหวาน หัวหอมมีสารสำคัญสองชนิด คือ allyl propyl disulfide และ diallyl disulfide จะช่วยป้องกันโรคหืด,โรคกระดูกพรุน,โรคหัวใจ,หลอดเลือดและโรคมะเร็งได้ น้ำผลไม้หอมหัวใหญ่จะช่วยบำรุงร่างกาย ใช้ในการรักษาอาการต่างๆเช่น มีไข้สูง,การติดเชื้อไซนัส,โรคนอนไม่หลับ
บีทรูท : บีทรูทอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ได้แก่ วิตามิน,เกลือแร่,สังกะสี,เหล็ก,แมงกานีส,แมกนีเซียม, เบต้าแคโรทีน ฯลฯ บีทรูทเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารและสารสีแดงในหัวบีทรูท คือ เบทานินเป็นกรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ทั้งนี้บีทรูทยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย บำรุงเลือดมีสรรพคุณต่อต้านเชื้อโรค ช่วยปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างในเลือด ช่วยในเรื่องการทำความสะอาดเลือด,ตับและระบบน้ำเหลือง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณพิเศษคือช่วยส่งเสริมให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้นด้วย แม้จะมีสารอาหารสูงแต่บีทรูทมีแคลอรี่ต่ำ
หัวไชเท้า : ช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา หัวไชเท้านี่มีสารโปรวิตามินเอ ที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเออยู่สูงมากหัวไชเท้าอุดมไปด้วยวิตามิน C,ฟอสฟอรัส,สังกะสี,วิตามีนบี 6,และเส้นใยอาหาร ช่วยบำรุงตับและกระเพาะอาหาร ใยอาหารในหัวไชเท้ายังช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักได้ดี และยังใช้ในการรักษา leukoderma ที่ทำงานเป็นตัวแทนช่วยในการกำจัดสารพิษในร่างกายช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ช่วยย่อยและช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น
มันฝรั่ง: มันฝรั่งมีเส้นใยอาหารที่ช่วยในการย่อยอาหาร วิตามินบี 6 ในมันฝรั่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โพแทสเซียมจากกมันฝรั่งช่วยรักษาเสถียรภาพระดับความดันโลหิต มันฝรั่งยังช่วยรักษาอาการอักเสบ การกินมันฝรั่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
แครอท : แครอท มีปริมาณน้ำตาล และสารเบต้าแคโรทีน มากกว่ารากผักชนิดอื่นๆ ยิ่งแครอทมีสีเข้มมากเท่าไหร่ก็แสดงว่ายิ่งมีรสารเบต้าแคโรทีนอยู่มากเท่านั้น และแครอทยังมีวิตามินบี วิตามินซีและวิตามินเคอีกด้วย
สารอาหารที่สำคัญในผักราก
คาร์โบไฮเดรต : มันฝรั่งถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตสูง คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะย่อยอย่างช้าๆในร่างกายและด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณอิ่มเป็นเวลานาน คาร์โบไฮเดรตให้กลูโคสซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานตามที่ร่างกายของเราต้องการ คาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยสลายช้าแต่ก็ไม่ได้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังคงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักของผักเหล่านี้มากมาย
เบต้าแคโรทีน : แคโรทีน Beta,สารตั้งต้นของวิตามินเป็นสารอาหารที่จำเป็นซึ่งมีสีส้ม,สีเหลืองหรือสีแดงซึ่งเป็นสีของผัก ช่วยเพิ่มเซลล์และช่วยเสริมสร้างเซลล์ที่เสื่อมสภาพป้องกันการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ที่นำไปสู่โรคมะเร็ง เป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอของการเกิดริ้วรอย,ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้สุขภาพตาสุขภาพผิวและผมแข็งแรง
วิตามิน : ผักเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยวิตามินและวิตามินซี ที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมทำให้มีสุขภาพผมที่แข็งแรงและผิวอ่อนนุ่ม วิตามินช่วยให้ฟันและกระดูกแข็งแรง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้ม บำรุงสมอง
ใยอาหาร : ผักเหล่านี้เกือบทั้งหมดมีใยอาหารสูง ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยเส้นใยแต่เส้นใยช่วยในการขับถ่ายสะดวกช่วยจับไขมันจากอาหารลดการดูดซึมพวกน้ำตาล ป้องกันการดูดวึมของสารก่อมะเร็งนอกจากนี้ยังช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีเพราะใยอาหารทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานจึงช่วยลดการบริโภคอาหารลงได้
แร่ธาตุ : ผักเหล่านี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น เหล็ก,ทองแดง,แคลเซียม,แมงกานีส,แมกนีเซียม,สังกะสี เป็นต้น แร่ธาตุเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้ เพราะแร่ธาตุช่วยในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำหน้าที่ปกติ เช่น ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย
